Record 10

Monday 19 March 2018

Content

แผนการจัดประสบการณ์ชั้นอนุบาลปีที่ 3  

กิจกรรม เสริมประสบการณ์ (หน่วยใต้ร่มเงาไม้)

จุดประสงค์

1.  เพื่อให้เด็กบอกส่วนประกอบ ลักษณะ ขนาด สี รูปร่างของต้นไม้ได้

2.  เพื่อให้เด็กร่วมสนทนากับครูได้

3. เพื่อให้เด็กร่วมกิจกรรมด้วยความสนุกสนาน

4. เพื่อให้เด็กฝึกการคิดวิเคราะห์ความเหมือนและความแตกต่างของต้นไม้ได้

สาระการเรียนรู้

สาระที่ควรรู้

        ส่วนประกอบ ขนาดลักษณะ สี และรูปร่างของต้นไม้แต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน

ประสบการณ์สำคัญ

ด้านร่างกาย

    1. การประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา

ด้านอารมณ์ – จิตใจ

    2. การร่วมกิจกรรมด้วยความสนุกสนาน

ด้านสังคม

    3. การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น

ด้านสติปัญญา

    4. การคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล

    5. การใช้ภาษาในการตอบคำถาม

กิจกรรมการเรียนรู้

ขั้นนำ

1. ครูร้องเพลง ให้เด็กๆ หลับตา จากนั้นครูแจกชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ให้เด็กตัวแทนออกมาต่อเป็นรูป
2. จากภาพที่สมบูรณ์ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับชนิดของต้นไม้ด้วยการถามคำถาม และตอบคำถาม
ขั้นสอน
3. ครูให้เด็กดูรูปต้นไม้ต้นที่ 1 ครูให้เด็กๆ สังเกต ลักษณะ เช่น ขนาด สี รูปร่างและส่วนประกอบ ของต้นไม้ แล้วบอกครูว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร จากนั้นครูบันทึกลงตารางวิเคราะห์

4. ครูให้เด็กดูรูปต้นไม้ต้นที่ 2 ครูให้เด็กๆ สังเกตลักษณะ เช่น ขนาด สี รูปร่างและส่วนประกอบ ของต้นไม้ แล้วบอกครูว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร จากนั้นครูบันทึกลงตารางวิเคราะห์
5. ครูและเด็กร่วมกันสรุปสิ่งที่เหมือนกัน และแตกต่างกันลงในไดอาแกรมวงกลม
6. ครูและเด็กร่วมกันสรุปจากไดอาแกรมวงกลมให้เป็นความเรียง
ขั้นสรุป
7.ครูและเด็กร่วมกันสรุปลักษณะของต้นไม้และความเหมือนต่างอีกครั้ง

สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

- จิ๊กซอว์รูปต้นไม้

- รูปต้นไม้ (ต้นมะม่วง,ต้นเข็ม)

- ป้ายกำกับต้นไม้ (ต้นมะม่วง,ต้นเข็ม)

- ตารางวิเคราะห์

- ไดอาแกรมวงกลม

การประเมิน

การสังเกตจาก

1. การตอบคำถามขณะทำกิจกรรม

2. การแสดงออกขณะทำกิจกรรม

การบูรณาการ

- คณิตศาสตร์

- วิทยาศาสตร์

คำแนะนำจากอาจารย์หลังการสอน

-  สื่อ รูปภาพควรมีลักษณะที่ชัดเจน เข้ากับเนื้อหาที่จะสอน

-  จัดพื้นที่ให้เด็กมองเห็นครูและสื่อได้สะดวกชัดเจน

แผนการจัดประสบการณ์ ชั้นอนุบาลปีที่ 2 

หน่วย ผลไม้เพื่อสุขภาพ (วันอังคาร)

จุดประสงค์

1. เด็กสนทนาแสดงความคิดเห็นและตอบคำถามได้               

2. เด็กอธิบายลักษณะและส่วนประกอบของผลไม้ได้

สาระการเรียนรู้

สาระที่ควรรู้

ผลไม้แต่ละชนิดมีลักษณะที่เหมือนและแตกต่างกัน เช่น สี รูปร่าง ผิว กลิ่น รส

ประสบการณ์สำคัญ

ด้านร่างกาย

    1. การประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา

ด้านอารมณ์ – จิตใจ

    การแสดงความรู้สึกสนุกสนานกับเรื่องราว 

ด้านสังคม

    การแสดงความรู้สึกสนุกสนานกับเรื่องราว 

ด้านสติปัญญา

การสังเกต/อธิบายรูปร่าง ลักษณะ ส่วนประกอบของผลไม้

การจำแนกเปรียบเทียบลักษณะของผลไม้

กิจกรรมการเรียนรู้

ขั้นนำ 1.ครูให้เด็กอ่านคำคล้องจองผลไม้ ฝรั่ง มังคุด ละมุด พุทรา อีกทั้ง น้อยหน่า หนูจ๋า น่าทาน ลำไย แตงโม ผลโต รสหวาน น่ารับประทาน หอมหวาน ชวนชม ขั้นสอน 2.ครูนำส้มและองุ่นมาให้เด็กๆ ดูและอธิบายส่วนประกอบของส้มและองุ่น 3. ครูนำส้มและองุ่นใส่จานมาให้เด็กๆ ดูโดยครูให้สังเกตลักษณะของสี รูปร่าง ผิว กลิ่น รสของผลไม้ทั้ง 2 ชนิด                                            4. ครูถามเด็กๆ เกี่ยวกับลักษณะของผลไม้ทั้ง 2 ชนิด พร้อมกับเขียนลงแผ่นชาร์ตตารางเปรียบเทียบส้มกับองุ่น

5. เปรียบเทียบลักษณะความเหมือนและความแตกต่างของส้มและองุ่น
ขั้นสรุป
6. คุณครูและเด็กร่วมกันบอกสิ่งที่เหมือนและแตกต่างกันของ ส้มและองุ่น

สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

1. คำคล้องจองผลไม้
2 ส้มและองุ่น
3. ตารางเปรียบเทียบลักษณะความเหมือนความต่าง

การประเมิน
สังเกต
1. การสนทนาแสดงความคิดเห็นและตอบคำถาม
2. การอธิบายลักษณะและส่วนประกอบของผลไม้

การบูรณาการ
- คณิตศาสตร์
- วิทยาศาสตร์  

คำแนะนำ

-  ควรมีภาชนะใส่ผลไม้ให้เด็กดู

-  ควรเตรียมผลไม้ให้พร้อมสำหรับการสังเกต

Skills / Brainstorming

- ทักษะการสอนเสริมประสบการณ์

- ทักษะเทคนิคสงบเด็ก
- ทักษะการพูด

Atmosphere in the classroom

- ห้องเรียนสะอาด มีความเรียบร้อย เพื่อนๆให้ความร่วมมือในการสอน

The teaching and learning

- อาจารย์คอยให้คำแนะนำในการทำกิจกรรมเป็นอย่างดี

Self-analysis

- ตั้งใจเรียน จดบันทึกตามความเข้าใจ  เเต่งกายสุภาพเรียบร้อย 

Record 9

Monday 12 March 2018

Content

        วันนี้อาจารย์ให้เเต่ละกลุ่มสอนกิจกรรมเคลื่อนไหวเเละจังหวะ(วันจันทร์) มีกิจกรรมเเคลื่อนไหวเเละจังหวะดังนี้

         กิจกรรมเคลื่อนไหวพื้นฐาน การเดินมีหลายเเบบ เดินด้วยปลายเท้า เดินด้วยส้นเท้า เดินด้วยด้านข้าของเท้า การกระโดดขาคู่ กระโดดขาเดียว การวิ่ง  

         กิจกรรมสัมพันธ์เนื้อหา กิจกรรมเคลื่อนไหวเเบบตามคำสั่งเเละข้อตกลง เช่น 

         หน่วย อาหารดีมีประโยชน์ ถ้าคุณครูพูดว่าเนื้อสัตว์ ให้เด็กๆตบมือ ถ้าคุณครูพูดว่านม ให้เด็กๆกระโดด ถ้าคุณครูพูดว่าผลไม้ ให้เด็กๆนั่งลง ซึ่่งเนื้อสัตว์ นม ผลไม้เป็นส่วนประกอบหลักของอาหาร 5 หมู่ ล้วนเป็นอาหารดีมีประโยชน์

         หน่วย ต้นไม้ คุณครูจะกำหนดมุมให้เด็กๆ 4 มุม โดยเเต่ละมุมนั้นเป็นชื่อของต้นไม้เเต่ละชนิด มุมต้นมะมะม่วง มุมต้นไทร มุมต้นหางกระโจง มุมต้นโพธ์ ถ้าคุณครูพูดว่าพูดชื่อของต้นไม้มุมใด ให้เด็กเคลื่อนที่ไปที่มุมนั้น

          หน่วย ตัวฉัน คุณครูจะกำหนดมุมให้เด็กๆ 4 มุม มีมุม คลีนิคตา คลีนิคหู คลีนิคจมูก คลีนิคฟัน ถ้าคุณครู พูดว่าชื่อคลีนิคใด ให้เด็กเคลื่อนที่ไปที่มุมนั้น ซึ่งคลีนิคทั้ง 4 นั้น จะเป็นคลีนิคที่รักษาอวัยวะในตัวเรา

         หน่วย บ้าน  คุณครูจะกำหนดมุมให้เด็กๆ 4 มุม มุมบ้านดิน มุมบ้านไม้ มุมบ้านฟาง มุมบ้านปูน ถ้าคุณครู  พูดว่ามุมบ้านดิน ให้เด็กๆเคลื่อนที่ไปที่มุมบ้านดิน เป็นต้น ซึ่งบ้านทั้ง 4 มุมนั้น จะเป็นชนิดของบ้านที่ใช้วัสดุเเต่ละชนิดสร้างขึ้น

          หน่วย ประสาทสัมผัสทั้ง 5 คุณครูจะกำหนดมุมให้เด็กๆ 4 มุม มีมุมร้านเเว่นตา มุมขายลำโพง 
มุมร้านอาหาร มุมร้านน้ำหอม  ถ้าคุณครูพูดว่ามุมอาหาร ให้เด็กๆเคลื่อนที่ ไปยังมุมอาหาร เป็นต้น ซึ่งมุมทั้ง 4 มุมล้วนใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ในด้านต่างๆ
         หน่วย ผีเสื้อ คุณครูกำหนดมุมสายพันธุ์ของผีเสื้อ เช่น ผีเสื้อไหม ผีเสื้อหางติ่ง ผีเสื้อป่า ถ้าคุณครูพูดว่าผีเสื้อป่า ให้เด็กเคลื่อนที่ไปยังมุมผีเสื้อป่า เคลื่อนที่โดยการทำทางบินของผีเสื้อ

        กิจกรรมเคลื่อนไหวประกอบเพลง เช่น หน่วย ผลไม้ ใช้ เพลง “แอปเปิ้ล มะละกอ กล้วย ส้ม” 

แอปเปิ้ล แอปเปิ้ล แอปเปิ้ล

มะละกอ มะละกอ มะละกอ

กล้วย กล้วย กล้วย

ส้ม ส้ม ส้ม

แอปเปิ้ล มะละกอ กล้วย ส้ม

ให้คุณครูสอนร้องเพลง หลังจากนั้นให้เด็กๆทำท่าประกอบเพลงไปพร้อมๆกัน หรือถ้าเป็นเด็กโต
(อนุบาล 3)ลองให้เด็กๆเเต่ละกลุ่มคิดท่าประกอบเพลงเอง เเล้วให้เพื่อนๆทำตาม
          กิจกรรมผ่อนคลายกล้ามเนื้อ นวดเเขน นวดขา นอนหลับตา

ตัวอย่างแผนกิจกรรมเคลื่อนไหวเเละจังหวะ หน่วยผลไม้

Skills / Brainstorming

-ทักษะการสอนเคลื่อนไหวเเละจังหวะ

- ทักษะเทคนิคการสงบเด็ก การเรียกเข้าเเถว การจับกลุ่มเด็กต่างๆ

Atmosphere in the classroom

- ห้องเรียนสะอาด มีความเรียบร้อย เพื่อนๆตั้งใจฟังเเละจดบันทึก 

The teaching and learning

- การเรียนการสอนในวันนี้อาจารย์มีการยกตัวตัวอย่างกิจกรรมเคลื่อนไหวเเละจังหวะมาบอกเล่าให้ฟังทำให้เข้าใจง่าย เห็นรูปแบบของกิจกรม

Self-analysis

- ตั้งใจเรียน จดบันทึกตามความเข้าใจ  เเต่งกายสุภาพเรียบร้อย มาเรียนตรงเวลา

Record 8

Monday 5 March 2018

Content

        วันนี้อาจารย์ได้อธิบายถึงการเขียนแผน โดยนำเนื้อหาที่นักศึกษาเขียนมายเเม็บมาเขียนแผนการสอน ซึ่งกลุ่มของดิฉันได้หน่วย ผลไม้เพื่อสุขภาพ เเละเเบ่งกันสอน ดิฉันได้สอนวันจันทร์ แผนการสอนที่อาจารย์ให้เขียนคือ แผนการจัดประสบการณ์เคลื่อนไหวเเละจังหวะ 

         สาระที่ควรเรียนรู้

1.เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก

2.เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลเเละสถานที่

3.ธรรมชาติรอบตัวเด็ก

4.สิ่งรอบๆตัวเรา

        ทำไมหลักสูตรถึงกำหนดมา 4 สาระที่ควรรู้

1.ให้เด็กได้เลือกเรียนตามความสนใจของฉัน

2.เลือกเรียนตามบริบทของโรงเรียนที่เเตกต่างกัน

        ลำดับขั้นตอนในการทำแผนการสอน

1.สอนอะไร ทำมายเเม็บ เนื้อหา ความรู้ หรือ สาระที่ควรเรียนรู้นั่นเอง

2.ทำมายเเม็บบูรณการเนื้อหาสาระ คือ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษา ศิลปะ พละ-สุขศึกษา สังคมศึกษา(คุณธรรมจริยาธรรม)

3.ทำมายเเม็บการจัดกิจกรรมเเบบบูรณาการให้มัลักษณะที่สัมพันธ์กัน

      การเขียนแผนเคลื่อนไหว ควรจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับวิธีการเรียนรู้ คือ ลงมือกระทำโดยผ่าประสาทสัมผัสทั้ง 5 เเละให้เด็กได้เลือก ตัดสินใจด้วยตนเอง

      การเคลื่อนไหวจังหวะ เป็นกิจกรรมที่จัดให้เด็กได้เคลื่อนไหวส่วนต่างๆของร่างกายอย่างอิสระตาม จังหวะ โดยใช้เสียงเพลงคำคล้องจองการปฏิบัติตามสัญญาณ ซึ่งจังหวะและดนตรีที่ใช้ประกอบได้แก่ เสียงตบมือเสียงเพลง เสียงเคาะไม้ เคาะเหล็ก ตีฉิ่ง กลอง ระนาด ฯลฯ มาประกอบการเคลื่อนไหวเพื่อส่งเสริมให้เด็กเกิดจินตนาการความคิกสร้างสรรค์ เด็กวัยนี้ร่างกายกำลังอยู่ระหว่างพัฒนาใช้ส่วนต่างๆ ร่างกายยังคงมาผสมผสาน หรือประสานสัมพันธ์กันอย่างสมบูรณ์มากนัก การเคลื่อนไหวร่างกายของเด็กอาจยังดูไม่มั่นคง

       การเคลื่อนไหวมีลักษณะ ดังนี้
1. ช้า ได้แก่ การคืบ คลาน 2. เร็ว ได้แก่ การวิ่ง
3. นุ่มนวล ได้แก่ การไหว้ การบิน 4. ขึงขัง ได้แก่ การกระทืบเท้าดังๆ ตีกลองดังๆ
5. ร่าเริงมีความสุข ได้แก่ การตบมือ การหัวเราะ 6. เศร้าโศกเสียใจ ได้แก่ สีหน้า ท่าทาง ฯลฯ
      ทิศทางการเคลื่อนไหว
1. เคลื่อนไหวไปข้างหน้า และข้างหลัง 

2. เคลื่อนไหวไปข้างซ้าย และข้างขวา
3. เคลื่อนตัวขึ้นลง 

4. เคลื่อนไหวรอบทิศ
       รูปแบบการเคลื่อนไหว
1. เคลื่อนไหวพื้นฐานได้แก่ การเคลื่อนไหวตามธรรมชาติของเด็กมี 2 ประเภท
      1.1 เคลื่อนไหวอยู่กับที่ ได้แก่ ตบมือ ผงกศีรษะ ขยิบตา ชันเขา เคาะเท้า เคลื่อนไหวมือและแขน มือและนิ้ว เท้าและปลายเท้า
      1.2 การเคลื่อนไหวเคลื่อนที่ ได้แก่ คลาน คืบ เดิน วิ่ง กระโดด ควบม้า
ก้าวกระโดด
2.การเลียนเเบบ มี 4 ประเภท
      2.1 เลียนแบบท่าทางสัตว์
      2.2 เลียนแบบท่าทางคน
      2.3 เลียนแบบเครื่องยนต์กลไกล และ เครื่องเล่น
      2.4 เลียนแบบปรากฏการณ์ธรรมชาติ
3. การเคลื่อนไหวตามบทเพลง ได้แก่ การเคลื่อนไหวหรือทำท่าทางประกอบเพลง เช่น เพลง ข.ไข่ หรือเพลงตามสมัยนิยม เป็นต้น
4. การทำท่าทางกายบริหารประกอบเพลง ได้แก่ การทำท่าทางกายบริหารตามจังหวะและประกอบเพลง หรือคำคล้องจ้อง
5. การเคลื่อนไหวเชิงสร้างสรรค์ ท่าทางขึ้นเองอาจชี้นำโดยการป้อนคำถามเคลื่อนไหวโดยใช้อุปกรณ์ประกอบ เช่น ห่วงยาง แถบผ้า บัตรคำ ริบบิ้น ฯลฯ
6. การเล่นหรือการทำท่าทางตามคำบรรยาย เรื่องราว ได้แก่ การเคลื่อนไหวหรือแสดงท่าทางตามจินตนาการจากเรื่องราวหรือคำบรรยายที่ผู้สอน เล่า
7. การปฏิบัติตามคำสั่ง หรือข้อตกลง ได้แก่ การเคลื่อนไหวหรือทำท่าทาง ตามสัญญาณตามคำสั่งตามที่ตกลงไว้ก่อนเริ่มกิจกรรม
8. การฝึกท่าทางเป็นผู้นำ ผู้ตาม ได้แก่ การเคลื่อนไหวหรือทำท่าทางจากความคิดสร้างสรรค์ของเด็กเองแล้วให้เพื่อนปฏิบัติตามกิจกรรม

(อ้างอิงจาก ศึกษาธิการ, กระทรวง. (2545) . คู่มือหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2546. สำนักวิชาการและ มาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาธิการขั้นพื้นฐาน.)

      ตัวอย่างการสอน

เริ่มด้วยการเคลื่อนไหวพื้นฐาน 

- ครูให้เด็กหาพื้นที่เป็นของตัวเอง

-โดยครูกำหนดสัญญาณ ดังนี้
      ถ้าคุณครูเคาะจังหวะช้าๆ ให้เด็กๆเดินต่อเท้าช้าๆไปรอบๆห้อง

      ถ้าคุณครูเคาะจังหวะเร็วๆ ให้เด็กๆเดินต่อเท้าอย่างรวดเร็วไปรอบๆห้อง 

       แต่ถ้าคุณครูเคาะจังหวะ 2 ครั้งติดกันให้เด็กๆหยุดอยู่ในท่านั้นทันที

-หลังจากนั้นก็เริ่มการสอนเคลื่อนไหวเเละจังหวะสัมพันธ์เนื้อหา เช่น การสอนเเบบตามคำบรรยาย เช่น หน่วยผลไม้เพื่อสุขภาพ

     "วันนี้ครูจะพาเด็กไปเที่ยวสวนผลไม้ ถามเด็ก เด็กๆอยากไปไหมเอ่ย เดี่ยวเด็กๆเดินตามครูมานะคะ ระหว่างที่เดินครูก็เล่าเกี่ยวกับสวนผลไม้ พาเด็กเก็บผลไม้ที่สวนเพื่อทาน ถามว่าผลไม้ชนิดนี้มีชื่อว่าอะไร พูดคุยกับเด็กระหว่างที่เดินไปเก็บผลไม้ทาน"
-หลังจากนั้นก็ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ดังนี้
      นวดขมับ
      นวดแขน
      นวดขา

Skills / Brainstorming

-ทักษะการคิดวิเคราะห์
- ทักษะการสอนเทคนิคต่างๆ
Atmosphere in the classroom
- ห้องเรียนสะอาด มีความเรียบร้อย เพื่อนๆตั้งใจฟังเเละจดบันทึก 
The teaching and learning
- การเรียนการสอนในวันนี้อาจารย์มีการยกตัวตัวอย่างกิจกรรมเคลื่อนไหวเเละจังหวะมาบอกเล่าให้ฟังทำให้เข้าใจง่าย เห็นรูปแบบของกิจกรม
Self-analysis
- ตั้งใจเรียน จดบันทึกตามความเข้าใจ  เเต่งกายสุภาพเรียบร้อย มาเรียนตรงเวลา

Record 7

Monday 26 February 2018

***Midterm exam***