วันอังคารที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2561

                               Record 3
Monday 29 January 2018


Content
- อาจารย์ทบทวนเนื้อหาสัปดาห์ที่เเล้ว
-อาจารย์ให้จับกลุ่ม 5 คน เพื่อเขียนผังความคิดเเต่ละหน่วย ว่ามีหัวข้อใดบ้าง ดังนี้ 

หน่วย ใต้ร่มเงาไม้

หน่วย ผลไม้เพื่อสุขภาพ
***ข้อเสนอเพิ่มเติมในแผนผังความคิดจากอาจารย์
เพิ่มประโยชน์ทางคุณค่าทางอาหาร เช่น วิตามิน c ช่วยให้ระบบขับถ่ายดี
เเละประโยชน์ทางพานิช เช่น อาชีพขายผลไม้ ผลไม้สามารถทำปุ๋ยได้
ข้อควรระวังในการทานผลไม้ เช่น ล้างก่อนทาน


หน่วย ผีเสื้อ


หน่วย อาหารดีมีคุณค่า



หน่วย บ้านเเสนรัก


หน่วย ตัวฉัน

Skills / Brainstorming
- ทักษะการทำผังความคิด
-ทักษะการคิดวิเคราะห์
- ทักษะการสื่อในการนำเสนองาน
Atmosphere in the classroom
- ห้องเรียนสะอาด มีความเรียบร้อย เพื่อนๆตั้งใจฟังเเละจดบันทึก มีการตอบโต้สนทนากับอาจารย์
The teaching and learning
- การทบทวนเนื้อหาสัปดาห์ที่เเล้ว ทำให้นักศึกษาเชื่องโยงการเรียนระหว่างสัปดาห์นี้ได้ง่ายขึ้น
- การเรียนการสอนในวันนี้อาจารย์ให้ข้อเเนะนำสำหรับการเขียนผังความคิด
Self-analysis

- ตั้งใจเรียน จดบันทึกตามความเข้าใจ  เเต่งกายสุภาพเรียบร้อย
                            Record 2
Monday 22 January 2018



Content
วันนี้เพื่อนเเต่ละกลุ่มนำเสนองานในหัวข้อเรื่อง ดังนี้


                                กลุ่มที่ 1 พัฒนาการเเละคุณลักษณะตามวัยของเด็กปฐมวัย
ด้านร่างกาย
เด็กอายุ 3 ปี
- กระโดดขึ้นลงอยู่กับที่ได้
- รับลูกบอลด้วยมือและลำตัว
-เดินขึ้นบันไดสลับเท้าได้
- เขียนรูปวงกลมตามแบบได้
- ใช้กรรไกรมือเดียวได้
เด็กอายุ 4 ปี
- กระโดดขาเดียวอยู่กับที่ได้
- รับลูกบอลได้ด้วยมือทั้งสอง
- เดินขึ้น - ลงบันไดสลับเท้าได้
- เขียนรูปสี่เหลี่ยมตามแบบได้
- ตัดกระดาษเป็นเส้นตรงได้
- กระฉับกระเฉงไม่ชอบอยู่เฉย
เด็กอายุ 5 ปี
- กระโดดขาเดียวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องได้
- รับลูกบอลที่กระดอนขึ้นจากพื้นได้ด้วยมือทั้งสอง
- เดินขึ้น - ลงบันไดสลับเท้าได้อย่างคล่องแคล่ว
- เขียนรูปสามเหลี่ยมตามแบบได้
- ตัดกระดาษตามแนวเส้นโค้งที่กำหนด
- ใช้กล้ามเนื้อเล็กได้ดี เช่น ติดกระดุม ผูกเชือกรองเท้า ฯลฯ
- ยืดตัว คล่องแคล่ว

ด้านอารมณ์และจิตใจ


เด็กอายุ 3 ปี
- แสดงอารมณ์ตามความรู้สึก
- ชอบที่จะทำให้ผู้ใหญ่พอใจและได้คำชม
- กลัวการพลัดพรากจากผู้เลี้ยงดูใกล้ชิดน้อยลง
เด็กอายุ 4 ปี
-แสดงออกทางอารมณ์ได้เหมาะสมกับบางสถานการณ์
- เริ่มรู้จักชื่นชมความสามารถ ผลงานของตนเองและผู้อื่น
- ต้องการให้มีคนฟัง คนสนใจ
เด็กอายุ 5 ปี
- แสดงอารมณ์ได้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างเหมาะสม
- ชื่นชมผลงานของตนเองและผู้อื่น
- ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางน้อยลง
- เล่นหรือทำงานโดยมีจุดมุ่งหมายร่วมกับผู้อื่นได้
- รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย


ด้านสังคม
เด็กอายุ 3 ปี
- รับประทานอาหารได้ด้วยตนเอง
- ชอบเล่นแบบคู่ขนาน (เล่นของเล่นชนิดเดียวกัน แต่ต่างคนต่างเล่น)
- เล่นสมมุติได้
- รู้จักรอคอย
เด็กอายุ 4 ปี
- แต่งตัวได้ด้วยตนเอง ไปห้องส้วมได้เอง
- เล่นร่วมกับคนอื่นได้
- รอคอยตามลำดับก่อน -หลัง
- แบ่งของให้คนอื่น
- เก็บของเล่นเข้าที่ได้
เด็กอายุ 5 ปี
- ปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเอง
- เล่นหรือทำงานโดยมีจุดมุ่งหมายร่วมกับผู้อื่นได้
- พบผู้ใหญ่ รู้จักไหว้ ทำความเคารพ
- รู้จักขอบคุณ เมื่อรับของจากผู้ใหญ่
- รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย

ด้านสติปัญญา
เด็กอายุ 3 ปี
- สำรวจสิ่งต่างๆ ที่เหมือนกันและต่างกันได้
- บอกชื่อของตนเองได้
- สนทนาโต้ตอบ/เล่าเรื่องด้วยประโยคสั้นๆ ได้
- ร้องเพลง ท่องกลอน คำคล้องจองง่ายๆ และแสดงท่าทางเลียนแบบได้
- รู้จักใช้คำถาม “อะไร”
เด็กอายุ 4 ปี
- จำแนกสิ่งต่างๆ ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้
- สนทนาโต้ตอบ/เล่าเรื่องเป็นประโยคอย่างต่อเนื่อง
- สร้างผลงานตามความคิดของตนเอง โดยมีรายละเอียดเพิ่มขึ้น
- รู้จักใช้คำถาม “ทำไม”
เด็กอายุ 5 ปี
- บอกความแตกต่างของกลิ่น สี เสียง รส รูปร่างจำแนกและจัดหมวดหมู่สิ่งของได้
- พยายามหาวิธีแก้ปัญหาด้วยตนเอง
- รู้จักใช้คำถาม “ทำไม” “อย่างไร”
- เริ่มเข้าใจสิ่งที่เป็นนามธรรม 



กลุ่มที่ 2 ความสนใจและความต้องการของเด็กปฐมวัย

ความต้องการ ความสนใจและการเล่นของเด็กปฐมวัย
          เด็กปฐมวัยเป็นวัยเริ่มต้นของชีวิตที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาความเป็นมนุษย์  การสร้างรากฐานที่ดีทั้งทางร่างกาย และจิตใจให้กับเด็กในวันนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะช่วงอายุแรกเกิด ถึง6 ปีเป็นระยะที่มีความสำคัญช่วงหนึ่งในการวางรากฐานคุณภาพชีวิตของเด็ก ด้วยเหตุที่เด็กปฐมวัยมีธรรมชาติและลักษณะเฉพาะที่แตกต่างไปจากบุคคลวัยอื่น ๆ
ชนิดของความต้องการ
ความต้องการของแต่ละคน (Individual Needs )
          ความต้องการทางอินทรีย์
          ความต้องการที่จะสร้างบุคลิกภาพ
          ความต้องการที่จะสร้างบุคลิกภาพ
          ความต้องการที่จะรักคนอื่นและให้คนอื่นรักตน
           ความต้องการความปลอดภัย
           ความต้องการการมีส่วนร่วม หรือเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
          ความต้องการความสัมฤทธิ์ผลหรือต้องการให้บรรลุจุดมุ่งหมายของตน
           ความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงจากสภาพที่อยู่ปกติให้เป็นสภาพใหม่
          ความต้องการที่จะรับความพึงพอใจในทางสวยงาม
ความต้องการทางสังคม (Social Need)
          ได้แก่ ความต้องการความปลอดภัยทางเศรษฐกิจ การนับหน้าถือตา ความนิยมชมชื่น ความเป็นมิตรภาพต่อกัน และความต้องการในสมบูรณาการ (Integration) ซึ่งเป็นความต้องการ  ที่เป็นความสุขของชีวิตตามอุดมคติ
ความต้องการของเด็กปฐมวัย
         ความต้องการพื้นฐานทางกาย เพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่
         ความต้องการความอิสระ ควบคู่ไปกับความต้องการพื้นฐานทางกาย
         ความต้องการผลสัมฤทธิ์ มักจะต้องการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทั้งสิ้น
         ความต้องการประสบการณ์ที่ท้าทาย
         ความต้องการมีเพื่อน เด็กปฐมวัยส่วนใหญ่ชอบอยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่น
ความสนใจ
            ความสนใจ หมายถึง ความรู้สึกหรือเจตคติของบุคคลที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะ ความรู้สึกนั้นทาให้บุคคลเอาใจใส่และกระทำการจน
1.เกิดจากความต้องการ
2.เกิดจากการเห็นคุณค่าของสิ่งนั้น
3.เกิดจากแรงจูงใจของสิ่งเร้า
4.สิ่งที่น่าสนใจเป็นสิ่งที่มีความหมาย
5.สิ่งที่น่าสนใจเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ มีความสัมพันธ์กับชีวิตจริงของเด็ก
6.สิ่งที่น่าสนใจเป็นสิ่งที่เด็กถนัดและมีประสบการณ์มาบ้างแล้ว
ความสนใจของเด็กปฐมวัย
             สิ่งที่เด็กปฐมวัยสนใจนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ตัวของเด็กนั่นเอง ที่เป็นเช่นนี้ เพราะเด็กปฐมวัยยังมีลักษณะของการยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง นอกจากนี้ ช่วงเวลาของความสนใจของเด็กปฐมวัย       จะค่อนข้างสั้น โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 2 – 3 นาที จึงเห็นได้ว่าเด็กในวัยนี้ชอบที่จะเปลี่ยนกิจกรรมอยู่ตลอดเวลา
1.ความสนใจร่วม เนื่องจากเด็กที่มีอายุระดับใกล้เคียงกัน
2.ความสนใจในสิ่งใหม่ ๆ ควรเปิดโอกาสให้เด็กพบกับสิ่งใหม่ ๆ
3.เป็นสิ่งที่ดี ในขณะเดียวกัน ควรเพิ่มกิจกรรมไปจากความสนใจ
4.ความสนใจชั่วครู่ และความสนใจที่แตกต่างออกไป

กลุ่มที่ 3 การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย


การเรียนรู้คืออะไร?
          การเรียนรู้ หมายถึง การเปลี่ยนพฤติกรรมซึ่งเป็นผลมาจากประสบการณ์ที่คนเรามีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม หรือจากการฝึกหัด รวมทั้งการเปลี่ยนปริมาณความรู้ของผู้เรียน   
มีองค์ประกอบ 3 อย่าง คือ 1) มนุษย์ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมจาก “ไม่รู้” เป็น “รู้”  “ทำไม่ได้” เป็น “ทำได้” “ไม่เคยทำ” เป็น “ทำ” 2) การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมนั้นต้องเป็นไปอย่างถาวร 3) การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนั้น เกิดจากประสบการณ์การฝึกฝนและการฝึกหัด ไม่ใช่จากเหตุอื่นๆนอกจากนั้น
เด็กปฐมวัยคืออะไร?
           เด็กปฐมวัย (Early Childhood) เป็นคำที่ใช้เรียกเด็กที่มีอายุตั้งแต่ปฏิสนธิจนถึง 6 ปี ซึ่งอยู่ในวัยที่คุณภาพของชีวิทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญากำลังเริ่มต้นพัฒนาอย่างเต็มที่
แนวการจัดประสบการณ์

การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย
1.  จัดประสบการณ์ให้สอดคล้องกับจิตวิทยาพัฒนาการ
2.  จัดประสบการณ์ให้สอดคล้องกับลักษณะการเรียนรู้ของเด็กวัยนี้
3.  จัดประสบการณ์ในรูปแบบบูรณาการ
4.  จัดประสบการณ์ให้เด็กได้ริเริ่ม คิด วางแผน ตัดสินใจ ลงมือกระทำ และนำเสนอความคิด
5.  จัดประสบการณ์ให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กอื่น กับผู้ใหญ่
6.  จัดประสบการณ์ให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อและแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลายและอยู่ในวิถีชีวิตของเด็ก           
7.  จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมลักษณะนิสัยที่ดีและทักษะการใช้ชีวิตประจำวันและสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม   
8. จัดสภาพแวดล้อมภายในห้องเรียน ให้มีมุมเล่น หรือมุมประสบการณ์ หรือศูนย์การเรียนต่าง ๆ ให้เด็กได้มีโอกาสเล่นร่วมกับผู้อื่น
สรุป
         เด็กจะเกิดการเรียนรู้ในช่วง 0-6 ปีอย่างง่ายโดยไม่รู้ตัว และเรียนรู้ด้วยความเพลิดเพลิน สนุกสนาน การส่งเสริมให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางเด็กจะเรียนรู้ได้ดีที่สุด 
ทั้งนี้จะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้แบบค้นหา และการมีปฏิสัมพันธ์ การใช้สื่อและการปรับบทบาทของครูและเด็ก ตามหลักทฤษฎีของกลุ่มแนวคิดสร้างองค์ความรู้
        การเรียนรู้หมายถึงการที่เด็กสามารถปรับความคิด เพื่อใช้ในชีวิตจริง การเรียนรู้จึงมิใช่การสะสมความรู้จากแหล่งภายนอกเพียงเท่านั้น ครูจําเป็นต้องให้ความสําคัญกับสิ่งที่เด็กจะต้องนํา ไปใช้ในชีวิตไปในขณะเดียวกันด้วย

 กลุ่มที่ 4 การสอนเเบบโครงการ
การสอนแบบโครงการ
         เป็นนวัตกรรมทางการศึกษาที่เปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้ประสบการณ์ตรงผ่านประสาทสัมผัส และการลงมือปฏิบัติ เป็นการเรียนรู้ในลักษณะที่เด็กเป็นศุูนย์กลาง เรียนรู้แบบเด็กสร้างองค์ความรู้ ด้วยกระบวนการวางแผน ลงมือปฏิบัติ  และเด็กสรุปความรู้ด้วยตนเอง เด็กจะได้สืบค้นข้อมูลจากแหล่งค้นคว้าที่หลากหลายตามหัวเรื่องที่เด็กสนใจ การสืบค้นข้อมูลดังกล่าวอาจทำเพียงคนเดียว หรือ อาจทำเป็นกลุ่มเล็กๆ หรือทั้งชั้นร่วมกันทำเพื่อให้เกิดเป็นกระบวนการสืบค้นขึ้นมา
         การจัดสภาพการณ์ของการเรียนการสอน โดยให้เด็กได้ร่วมกันเลือกทำโครงการที่ตนสนใจโดยร่วมกันสำรวจ สังเกต และกำหนดเรื่องที่ตนสนใจ วางแผนในการทำโครงการร่วมกัน ศึกษาสืบค้น หาข้อมูล ความรู้ที่จำเป็น และนำเสนอต่อสาธารณชน เก็บข้อมูล แล้วนำผลงาน และประสบการณ์ทั้งหมดมาอภิปรายแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นและสรุปผลการเรียนรู้ที่ได้รับจากประสบการณ์ทั้งหมด
การสอนแบบโครงการ แบ่งเป็น 3 ระยะดังนี้
        ระยะที่ 1 เริ่มต้นโครงการ : ทบทวนความรู้และความสนใจของเด็ก
1.1 สร้าง/สังเกตความสนใจของเด็ก
1.2 ครูและเด็กกำหนดหัวเรื่องโครงการ
        ระยะที่ 2 พัฒนาโครงการ : ให้โอกาสเด็กค้นคว้าและมีประสบการณ์ใหม่
2.1 เด็กกำหนดปัญหาที่จะศึกษา
2.2 เด็กตั้งสมมติฐานเบื้องต้น
2.3 ทดสอบสมมุติฐาน
2.4 เชิญวิทยากร
2.5 ตั้งสมมติฐานใหม่
2.6 เด็กทดสอบสมมุติฐานใหม่
2.7 เด็กสรุปข้อความรู้
         ระยะที่ 3 สรุปโครงการ : ประเมิน สะท้อนกลับและแลกเปลี่ยนงานโครงการ
3.1 เด็กรวบรวมสรุป
3.2 เด็กสิ้นสุดความสนใจในหัวเรื่องโครงการ
3.3 เด็กนำเสนอผลงานโครงการ
         สรุปได้ว่า การสอนแบบโครงการ คือ การที่เด็กเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม ศึกษาเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จากความสนใจของเด็กเอง อย่างลุ่มลึกลงไปในรายละเอียดของเรื่องนั้น โดยเป็นกิจกรรมที่เน้นกระบวนการ การลงมือปฏิบัติ การใช้กระบวนการคิด และแก้ปัญหาผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หรือกระบวนการอื่นๆ ด้วยตัวเด็กเอง จนค้นพบคำตอบและได้รับความรู้ที่ต้องการ ภายใต้การแนะนำช่วยเหลือ ส่งเสริมและสนับสนุนของครู

Skills / Brainstorming
- ทักษะการนำเสนองานหน้าชั้นเรียน
-ทักษะการคิดวิเคราะห์
- ทักษะการสื่อในการนำเสนองาน
Atmosphere in the classroom
- ห้องเรียนสะอาด มีความเรียบร้อย เพื่อนๆตั้งใจฟังเเละจดบันทึก มีการตอบโต้สนทนากับอาจารย์
The teaching and learning
- การเรียนการสอนในวันนี้อาจารย์ยกตัวอย่างเเต่ละหัวข้อทำให้ดิฉันเข้าใจมากขึ้น เห็นภาพได้ชัดขึ้น

Self-analysis
- ตั้งใจเรียน จดบันทึกตามความเข้าใจ  เเต่งกายสุภาพเรียบร้อย
     

วันศุกร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2561

Record 1
Monday 15 January 2018

Content

-อาจารย์เเจกเเนวการสอนในรายวิชาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทางการศึกษาปฐมวัย อธิบายว่าเเต่ละสัปดาห์เรียนอะไรบ้าง

- รูปเเบบการสอนของเเต่ละโรงเรียนที่ไปสังเกตการสอนมีดังนี้ เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง การเรียนเเบบบูรณาการ เรียนเเบบโปรเจ็ก(โครงการ) เรียนอ่านเขียน

หลัการสอนร้องเพลง

1.เด็กพูดตามครู

2.เด็กร้องตามครูที่ละวรรค

3.เด็กและครูร้องพร้อมกัน พร้อมทั้งปรบมือ เเละใส่ท่าทางของเพลง
 การสงบเด็ก สามารถนำเพลงมาประยุกต์ใช้ในการสงบเด็กได้ มีทั้ง คำคล้องจอง เพลงที่เเต่งเอง เพลงเฉพาะของเด็ก และเพลงที่ใช้ร้องทั่วๆไป มีเพลงดังนี้

เพลง แมลงเกาะจมูก
มีเเมลงตัวหนึ่งบินมาเกาะจมูกกระต่าย (ซ้ำ)
มันจึงปั๊ดมันจึงปัด เเมลงก็บินหายไป

เพลง ตบมือ ตบตัก ตบไหล่

มือ มือ มือ ตบตัก ตบมือ ตบมือ ตบไหล่

มือ มือ มือ ตบตัก ตบมือ ตบมือ ตบไหล่

แล้วสลับ แล้วสลับ กันไป

แล้วสลับ แล้วสลับ กันไป

ตบตัก ตบไหล่ ตบมือ ตบมือ



เพลงปลาหมึก
ปลาหมึกหนวดยาว  หนวดยาวตัวขาวน่ารัก
เวลาหยุดพักชอบยักไหล่เล่น
ยักเช้า ยักเย็น ยักเล่นๆ
แล้วก็ยัก ยัก ยัก  ปลาหมึกผูกโบว์

เพลง นั่งตรง
     นั่งตัวตรง ตรง   นั่งตัวตรง ตรง       
ตรงไหมคะ(ซ้ำ)  ตรงแล้วค่ะ(ซ้ำ) 


 เพลง อยากกินไข่พะโล้ โป๊ะ 

อยากกินไข่พะโล้ โป๊ะ กินกับแกงกะหรี่ โป๊ะ 
อยากกินกล้วยบวชชี กะหล่ำปลีน่ากินน่ากิน โป๊ะ โป๊ะ โป๊ะ

เพลง เเมงมุม
แมงมุมลายตัวนั้น
ฉันเห็นมันซมซานเหลือทน
วันหนึ่งมันเปียกฝน ไหลหล่นจากบนหลังคา
พระอาทิตย์ส่องแสง น้ำแห้งเหือดไปลับตา
มันรีบไต่ขึ้นฟ้า หันหลังมาทำตาลุกวาว
ปิด

ปิดหูซ้ายขวา ปิดตาสองข้าง
ปิดปากเสียบ้าง แล้วนั่งสมาธิ





Skills / Brainstorming

- ร่วมกันคิดเพลงสงบเด็ก
- ทักษะการสอนร้องเพลง
Atmosphere in the classroom
- ห้องเรียนสะอาด การเรียนในห้องรู้สึกผ่อนคลายเป็นการเรียนที่สนุก
The teaching and learning
- วันนี้เป็นการเรียนการสอนวันเเรก เป็นการเรียนการสอนที่เข้าใจง่ายเน้นการสอนเเบบสนทนา เเละยังสามารถนำเทคนิคที่อาจารย์สอนไปใช้ได้จริง อยากให้อาจารย์สอนสิ่งที่สามารถนำไปใช้กับที่เด็กได้จริงมากกว่าเรียนในทางวิชาการ
Self-analysis
- ตั้งใจเรียน จดบันทึกตามอาจารย์พูด โดยเฉพาะเทคนิคที่สามารถนำไปใช้ที่โรงเรียนหรือใช้กับเด็กได้