วันอังคารที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2561

                            Record 2
Monday 22 January 2018



Content
วันนี้เพื่อนเเต่ละกลุ่มนำเสนองานในหัวข้อเรื่อง ดังนี้


                                กลุ่มที่ 1 พัฒนาการเเละคุณลักษณะตามวัยของเด็กปฐมวัย
ด้านร่างกาย
เด็กอายุ 3 ปี
- กระโดดขึ้นลงอยู่กับที่ได้
- รับลูกบอลด้วยมือและลำตัว
-เดินขึ้นบันไดสลับเท้าได้
- เขียนรูปวงกลมตามแบบได้
- ใช้กรรไกรมือเดียวได้
เด็กอายุ 4 ปี
- กระโดดขาเดียวอยู่กับที่ได้
- รับลูกบอลได้ด้วยมือทั้งสอง
- เดินขึ้น - ลงบันไดสลับเท้าได้
- เขียนรูปสี่เหลี่ยมตามแบบได้
- ตัดกระดาษเป็นเส้นตรงได้
- กระฉับกระเฉงไม่ชอบอยู่เฉย
เด็กอายุ 5 ปี
- กระโดดขาเดียวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องได้
- รับลูกบอลที่กระดอนขึ้นจากพื้นได้ด้วยมือทั้งสอง
- เดินขึ้น - ลงบันไดสลับเท้าได้อย่างคล่องแคล่ว
- เขียนรูปสามเหลี่ยมตามแบบได้
- ตัดกระดาษตามแนวเส้นโค้งที่กำหนด
- ใช้กล้ามเนื้อเล็กได้ดี เช่น ติดกระดุม ผูกเชือกรองเท้า ฯลฯ
- ยืดตัว คล่องแคล่ว

ด้านอารมณ์และจิตใจ


เด็กอายุ 3 ปี
- แสดงอารมณ์ตามความรู้สึก
- ชอบที่จะทำให้ผู้ใหญ่พอใจและได้คำชม
- กลัวการพลัดพรากจากผู้เลี้ยงดูใกล้ชิดน้อยลง
เด็กอายุ 4 ปี
-แสดงออกทางอารมณ์ได้เหมาะสมกับบางสถานการณ์
- เริ่มรู้จักชื่นชมความสามารถ ผลงานของตนเองและผู้อื่น
- ต้องการให้มีคนฟัง คนสนใจ
เด็กอายุ 5 ปี
- แสดงอารมณ์ได้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างเหมาะสม
- ชื่นชมผลงานของตนเองและผู้อื่น
- ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางน้อยลง
- เล่นหรือทำงานโดยมีจุดมุ่งหมายร่วมกับผู้อื่นได้
- รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย


ด้านสังคม
เด็กอายุ 3 ปี
- รับประทานอาหารได้ด้วยตนเอง
- ชอบเล่นแบบคู่ขนาน (เล่นของเล่นชนิดเดียวกัน แต่ต่างคนต่างเล่น)
- เล่นสมมุติได้
- รู้จักรอคอย
เด็กอายุ 4 ปี
- แต่งตัวได้ด้วยตนเอง ไปห้องส้วมได้เอง
- เล่นร่วมกับคนอื่นได้
- รอคอยตามลำดับก่อน -หลัง
- แบ่งของให้คนอื่น
- เก็บของเล่นเข้าที่ได้
เด็กอายุ 5 ปี
- ปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเอง
- เล่นหรือทำงานโดยมีจุดมุ่งหมายร่วมกับผู้อื่นได้
- พบผู้ใหญ่ รู้จักไหว้ ทำความเคารพ
- รู้จักขอบคุณ เมื่อรับของจากผู้ใหญ่
- รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย

ด้านสติปัญญา
เด็กอายุ 3 ปี
- สำรวจสิ่งต่างๆ ที่เหมือนกันและต่างกันได้
- บอกชื่อของตนเองได้
- สนทนาโต้ตอบ/เล่าเรื่องด้วยประโยคสั้นๆ ได้
- ร้องเพลง ท่องกลอน คำคล้องจองง่ายๆ และแสดงท่าทางเลียนแบบได้
- รู้จักใช้คำถาม “อะไร”
เด็กอายุ 4 ปี
- จำแนกสิ่งต่างๆ ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้
- สนทนาโต้ตอบ/เล่าเรื่องเป็นประโยคอย่างต่อเนื่อง
- สร้างผลงานตามความคิดของตนเอง โดยมีรายละเอียดเพิ่มขึ้น
- รู้จักใช้คำถาม “ทำไม”
เด็กอายุ 5 ปี
- บอกความแตกต่างของกลิ่น สี เสียง รส รูปร่างจำแนกและจัดหมวดหมู่สิ่งของได้
- พยายามหาวิธีแก้ปัญหาด้วยตนเอง
- รู้จักใช้คำถาม “ทำไม” “อย่างไร”
- เริ่มเข้าใจสิ่งที่เป็นนามธรรม 



กลุ่มที่ 2 ความสนใจและความต้องการของเด็กปฐมวัย

ความต้องการ ความสนใจและการเล่นของเด็กปฐมวัย
          เด็กปฐมวัยเป็นวัยเริ่มต้นของชีวิตที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาความเป็นมนุษย์  การสร้างรากฐานที่ดีทั้งทางร่างกาย และจิตใจให้กับเด็กในวันนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะช่วงอายุแรกเกิด ถึง6 ปีเป็นระยะที่มีความสำคัญช่วงหนึ่งในการวางรากฐานคุณภาพชีวิตของเด็ก ด้วยเหตุที่เด็กปฐมวัยมีธรรมชาติและลักษณะเฉพาะที่แตกต่างไปจากบุคคลวัยอื่น ๆ
ชนิดของความต้องการ
ความต้องการของแต่ละคน (Individual Needs )
          ความต้องการทางอินทรีย์
          ความต้องการที่จะสร้างบุคลิกภาพ
          ความต้องการที่จะสร้างบุคลิกภาพ
          ความต้องการที่จะรักคนอื่นและให้คนอื่นรักตน
           ความต้องการความปลอดภัย
           ความต้องการการมีส่วนร่วม หรือเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
          ความต้องการความสัมฤทธิ์ผลหรือต้องการให้บรรลุจุดมุ่งหมายของตน
           ความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงจากสภาพที่อยู่ปกติให้เป็นสภาพใหม่
          ความต้องการที่จะรับความพึงพอใจในทางสวยงาม
ความต้องการทางสังคม (Social Need)
          ได้แก่ ความต้องการความปลอดภัยทางเศรษฐกิจ การนับหน้าถือตา ความนิยมชมชื่น ความเป็นมิตรภาพต่อกัน และความต้องการในสมบูรณาการ (Integration) ซึ่งเป็นความต้องการ  ที่เป็นความสุขของชีวิตตามอุดมคติ
ความต้องการของเด็กปฐมวัย
         ความต้องการพื้นฐานทางกาย เพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่
         ความต้องการความอิสระ ควบคู่ไปกับความต้องการพื้นฐานทางกาย
         ความต้องการผลสัมฤทธิ์ มักจะต้องการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทั้งสิ้น
         ความต้องการประสบการณ์ที่ท้าทาย
         ความต้องการมีเพื่อน เด็กปฐมวัยส่วนใหญ่ชอบอยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่น
ความสนใจ
            ความสนใจ หมายถึง ความรู้สึกหรือเจตคติของบุคคลที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะ ความรู้สึกนั้นทาให้บุคคลเอาใจใส่และกระทำการจน
1.เกิดจากความต้องการ
2.เกิดจากการเห็นคุณค่าของสิ่งนั้น
3.เกิดจากแรงจูงใจของสิ่งเร้า
4.สิ่งที่น่าสนใจเป็นสิ่งที่มีความหมาย
5.สิ่งที่น่าสนใจเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ มีความสัมพันธ์กับชีวิตจริงของเด็ก
6.สิ่งที่น่าสนใจเป็นสิ่งที่เด็กถนัดและมีประสบการณ์มาบ้างแล้ว
ความสนใจของเด็กปฐมวัย
             สิ่งที่เด็กปฐมวัยสนใจนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ตัวของเด็กนั่นเอง ที่เป็นเช่นนี้ เพราะเด็กปฐมวัยยังมีลักษณะของการยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง นอกจากนี้ ช่วงเวลาของความสนใจของเด็กปฐมวัย       จะค่อนข้างสั้น โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 2 – 3 นาที จึงเห็นได้ว่าเด็กในวัยนี้ชอบที่จะเปลี่ยนกิจกรรมอยู่ตลอดเวลา
1.ความสนใจร่วม เนื่องจากเด็กที่มีอายุระดับใกล้เคียงกัน
2.ความสนใจในสิ่งใหม่ ๆ ควรเปิดโอกาสให้เด็กพบกับสิ่งใหม่ ๆ
3.เป็นสิ่งที่ดี ในขณะเดียวกัน ควรเพิ่มกิจกรรมไปจากความสนใจ
4.ความสนใจชั่วครู่ และความสนใจที่แตกต่างออกไป

กลุ่มที่ 3 การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย


การเรียนรู้คืออะไร?
          การเรียนรู้ หมายถึง การเปลี่ยนพฤติกรรมซึ่งเป็นผลมาจากประสบการณ์ที่คนเรามีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม หรือจากการฝึกหัด รวมทั้งการเปลี่ยนปริมาณความรู้ของผู้เรียน   
มีองค์ประกอบ 3 อย่าง คือ 1) มนุษย์ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมจาก “ไม่รู้” เป็น “รู้”  “ทำไม่ได้” เป็น “ทำได้” “ไม่เคยทำ” เป็น “ทำ” 2) การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมนั้นต้องเป็นไปอย่างถาวร 3) การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนั้น เกิดจากประสบการณ์การฝึกฝนและการฝึกหัด ไม่ใช่จากเหตุอื่นๆนอกจากนั้น
เด็กปฐมวัยคืออะไร?
           เด็กปฐมวัย (Early Childhood) เป็นคำที่ใช้เรียกเด็กที่มีอายุตั้งแต่ปฏิสนธิจนถึง 6 ปี ซึ่งอยู่ในวัยที่คุณภาพของชีวิทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญากำลังเริ่มต้นพัฒนาอย่างเต็มที่
แนวการจัดประสบการณ์

การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย
1.  จัดประสบการณ์ให้สอดคล้องกับจิตวิทยาพัฒนาการ
2.  จัดประสบการณ์ให้สอดคล้องกับลักษณะการเรียนรู้ของเด็กวัยนี้
3.  จัดประสบการณ์ในรูปแบบบูรณาการ
4.  จัดประสบการณ์ให้เด็กได้ริเริ่ม คิด วางแผน ตัดสินใจ ลงมือกระทำ และนำเสนอความคิด
5.  จัดประสบการณ์ให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กอื่น กับผู้ใหญ่
6.  จัดประสบการณ์ให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อและแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลายและอยู่ในวิถีชีวิตของเด็ก           
7.  จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมลักษณะนิสัยที่ดีและทักษะการใช้ชีวิตประจำวันและสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม   
8. จัดสภาพแวดล้อมภายในห้องเรียน ให้มีมุมเล่น หรือมุมประสบการณ์ หรือศูนย์การเรียนต่าง ๆ ให้เด็กได้มีโอกาสเล่นร่วมกับผู้อื่น
สรุป
         เด็กจะเกิดการเรียนรู้ในช่วง 0-6 ปีอย่างง่ายโดยไม่รู้ตัว และเรียนรู้ด้วยความเพลิดเพลิน สนุกสนาน การส่งเสริมให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางเด็กจะเรียนรู้ได้ดีที่สุด 
ทั้งนี้จะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้แบบค้นหา และการมีปฏิสัมพันธ์ การใช้สื่อและการปรับบทบาทของครูและเด็ก ตามหลักทฤษฎีของกลุ่มแนวคิดสร้างองค์ความรู้
        การเรียนรู้หมายถึงการที่เด็กสามารถปรับความคิด เพื่อใช้ในชีวิตจริง การเรียนรู้จึงมิใช่การสะสมความรู้จากแหล่งภายนอกเพียงเท่านั้น ครูจําเป็นต้องให้ความสําคัญกับสิ่งที่เด็กจะต้องนํา ไปใช้ในชีวิตไปในขณะเดียวกันด้วย

 กลุ่มที่ 4 การสอนเเบบโครงการ
การสอนแบบโครงการ
         เป็นนวัตกรรมทางการศึกษาที่เปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้ประสบการณ์ตรงผ่านประสาทสัมผัส และการลงมือปฏิบัติ เป็นการเรียนรู้ในลักษณะที่เด็กเป็นศุูนย์กลาง เรียนรู้แบบเด็กสร้างองค์ความรู้ ด้วยกระบวนการวางแผน ลงมือปฏิบัติ  และเด็กสรุปความรู้ด้วยตนเอง เด็กจะได้สืบค้นข้อมูลจากแหล่งค้นคว้าที่หลากหลายตามหัวเรื่องที่เด็กสนใจ การสืบค้นข้อมูลดังกล่าวอาจทำเพียงคนเดียว หรือ อาจทำเป็นกลุ่มเล็กๆ หรือทั้งชั้นร่วมกันทำเพื่อให้เกิดเป็นกระบวนการสืบค้นขึ้นมา
         การจัดสภาพการณ์ของการเรียนการสอน โดยให้เด็กได้ร่วมกันเลือกทำโครงการที่ตนสนใจโดยร่วมกันสำรวจ สังเกต และกำหนดเรื่องที่ตนสนใจ วางแผนในการทำโครงการร่วมกัน ศึกษาสืบค้น หาข้อมูล ความรู้ที่จำเป็น และนำเสนอต่อสาธารณชน เก็บข้อมูล แล้วนำผลงาน และประสบการณ์ทั้งหมดมาอภิปรายแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นและสรุปผลการเรียนรู้ที่ได้รับจากประสบการณ์ทั้งหมด
การสอนแบบโครงการ แบ่งเป็น 3 ระยะดังนี้
        ระยะที่ 1 เริ่มต้นโครงการ : ทบทวนความรู้และความสนใจของเด็ก
1.1 สร้าง/สังเกตความสนใจของเด็ก
1.2 ครูและเด็กกำหนดหัวเรื่องโครงการ
        ระยะที่ 2 พัฒนาโครงการ : ให้โอกาสเด็กค้นคว้าและมีประสบการณ์ใหม่
2.1 เด็กกำหนดปัญหาที่จะศึกษา
2.2 เด็กตั้งสมมติฐานเบื้องต้น
2.3 ทดสอบสมมุติฐาน
2.4 เชิญวิทยากร
2.5 ตั้งสมมติฐานใหม่
2.6 เด็กทดสอบสมมุติฐานใหม่
2.7 เด็กสรุปข้อความรู้
         ระยะที่ 3 สรุปโครงการ : ประเมิน สะท้อนกลับและแลกเปลี่ยนงานโครงการ
3.1 เด็กรวบรวมสรุป
3.2 เด็กสิ้นสุดความสนใจในหัวเรื่องโครงการ
3.3 เด็กนำเสนอผลงานโครงการ
         สรุปได้ว่า การสอนแบบโครงการ คือ การที่เด็กเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม ศึกษาเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จากความสนใจของเด็กเอง อย่างลุ่มลึกลงไปในรายละเอียดของเรื่องนั้น โดยเป็นกิจกรรมที่เน้นกระบวนการ การลงมือปฏิบัติ การใช้กระบวนการคิด และแก้ปัญหาผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หรือกระบวนการอื่นๆ ด้วยตัวเด็กเอง จนค้นพบคำตอบและได้รับความรู้ที่ต้องการ ภายใต้การแนะนำช่วยเหลือ ส่งเสริมและสนับสนุนของครู

Skills / Brainstorming
- ทักษะการนำเสนองานหน้าชั้นเรียน
-ทักษะการคิดวิเคราะห์
- ทักษะการสื่อในการนำเสนองาน
Atmosphere in the classroom
- ห้องเรียนสะอาด มีความเรียบร้อย เพื่อนๆตั้งใจฟังเเละจดบันทึก มีการตอบโต้สนทนากับอาจารย์
The teaching and learning
- การเรียนการสอนในวันนี้อาจารย์ยกตัวอย่างเเต่ละหัวข้อทำให้ดิฉันเข้าใจมากขึ้น เห็นภาพได้ชัดขึ้น

Self-analysis
- ตั้งใจเรียน จดบันทึกตามความเข้าใจ  เเต่งกายสุภาพเรียบร้อย
     

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น